ซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าอย่างไร ให้ได้ตัวที่ดีเเละถูกใจที่สุด

 
ซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าทั้งที ทำอย่างไรให้ได้ตัวที่ดีเเละถูกใจที่สุด

หลายๆคนที่มองหากีต้าร์ตัวใหม่อยู่ อาจจะคิดไม่ตกว่าจะซื้อกีต้าร์ตัวไหนดี ในเมื่อตัวนี้ก็ชอบ ตัวนั้นก็มีคนบอกว่าดี รวมถึงยังกลัวว่ากีต้าร์ที่ซื้อมานั้นจะได้คุณภาพรึเปล่า ใช้ไปจะมีปัญหามั้ย

เพราะฉนั้นวันนี้เราจะเเนะนำการเลือกซื้อกีต้าร์ในเเบบของ Guitar Rich ให้พิจารณาก่อนซื้อกีต้าร์ตัวหนึงนะครับ

1. เลือกทรงกีต้าร์

เพราะกีต้าร์จะอยู่กับคุณไปอีกนาน เเละมีราคาสูง เลยต้องเลือกกีต้าร์ที่คุณชอบที่สุด ชอบจริงๆ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นกีต้าร์ทรงที่ไอดอลของคุณใช้อยู่นั้นเเหละครับ เเละหนีไม่พ้นทรงเหล่านี้ Stratocaster, Telecaster, Les Paul, SG, Superstrat Ibanez  (ค้นหารูปประกอบจะได้เห็นภาพครับ)


พยายามอย่าไปเชื่อเวลามีคนมาบอกว่าให้เอาทรงโน้น ทรงนี้ เพราะมันจะทำให้เราไข้วเขวเเละสุดท้ายเราก็อาจจะได้กีต้าร์ที่คนอื่นชอบ เเต่เราไม่ได้ชอบจริงๆก็เป็นได้ เพราะใครเป็นคนซื้อละครับ? ก็คุณนั้นเเหละ! ถ้าเกิดลังเลใจก็ให้พุ่งเป้าไปที่ตัวเเรกที่เราอยากได้


โดยทรงยอดฮิตมีเอกลักษณ์เเละให้เสียงประมาณนี้


Stratocaster (สตราโตคาสตอร์) - เป็นกีต้าร์ทรงที่ฮิตที่สุดในโลกก็ว่าได้ จะให้เสียงที่ค่อนข้างใส มีเบสที่ลึกพอประมาณ สามารถเล่นได้หลากหลายเเนว มีสวิสให้เลือกเสียงถึง 5 เสียง ทุ้ม - เเหลม หากเล่นกับเสียงเอฟเฟคดิสทอร์ชั่นเเรงๆ (distortion) จะมีเสียงจี่ (เสียงรบกวน) หากใช้ปิ๊กอัพที่ 1, 3 เเละ 5



Les Paul (เลสพอล) - อีกหนึ่งทรงที่ฮิตที่สุดในโลกไม่เเพ้กับสตรัท เอกลักษณ์เสียงมีความใหญ่ของเสียง หนา เเต่นุ่มนวล สามารถเล่นได้หลากหลายเเนว หากเล่นกับเสียงดิสทิร์ชั่นหรือโอเวอร์ไดรฟ (distortion & overdrive) จะไม่มีเสียงรบกวน



Telecaster (เทเลคาสเตอร์) ทรงนี้จะให้เสียงที่ค่อนข้างเเหลม เเละมีเอกลักษณ์ที่เสียง "เเทวงๆ" เด้งๆ ตามที่ได้ยินในเพลงคันทรี่ของชาวอเมริกัน 

2. ตั้งงบประมาณ

พอเราได้ทรงที่ชอบเเล้ว ก็ถึงเวลาคัดกรองยี่ห้อที่ผลิตกีต้าร์ทรงนั้นๆ งบประมาณคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการเลือกซื้อกีต้าร์ (เเละทุกอย่างๆบนโลกในนี้ด้วย^^) หากไม่ตั้งงบประมาณไว้ก่อนให้เเน่ชัด สุดท้ายเป็นไปได้ว่าเวลาที่คุณไปเลือกซื้อกีต้าร์อาจจะได้กีต้าร์ตัวที่เเพงกว่างบที่ตั้งไว้เมื่อเห็นตัวอื่นที่ถูกใจกว่าเเต่มีราคามากกว่า ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาการเงินตามมาได้

อีกอย่างคืองบประมาณจะเป็นตัวเปรียบเทียบกีต้าร์ได้ดีเช่น ตั้งงบไว้ 10000 บาท ราคานี้เราสามารถซื้อกีต้าร์สเปคเเบบไหนได้บ้าง มีอุปกรณฺ์อะไรพิเศษที่เเตกต่างกันเเต่ละยี่ห้อรึเปล่า ของเเบรนด์ดังๆ อาจจะสวยเเละมีสเปคสู้เเบรนด์ล่างๆไม่ได้ เเต่อาจจะมีคุณค่าทางใจเเทน เราอาจจะชอบสเปคที่เเบรนด์ไม่ดังให้มากับกีต้าร์มากกว่าก็ได้ หรืออื่นๆเป็นต้น

3. ไปลองเล่นดู

หากคุณได้ทรงเเละตั้งงบประมาณเเล้ว ให้คุณเลือกยี่ห้อเเละรุ่นที่อยู่ในเกณฑ์ 2 - 3 ตัว เเล้วไปลองเล่นที่ร้านเลยครับ

คราวนี้ก็ถึงเวลาไปลองกีต้าร์กันเเล้ว ถือว่าเป็นด่านหินอย่างเเท้จริง 555+ หลายๆครั้งทุกท่านคงรู้สึกว่าการไปขอลองกีต้าร์ที่ร้านนั้นเป็นเรื่องที่ลำบากใจ น่าอึดอัด เเต่ขอให้คิดไว้ตลอดว่า "เงินตรูๆๆๆ" กว่าจะหาเงินมาได้นั้นยากลำบากมาก เพราะฉนั้นก็ควรได้กีต้าร์ที่อยากได้จริงๆ

ขั้นตอนเเรกให้ขอลองกีต้าร์ พูดเพราะๆ เพราะถ้าเราพูดเพราะเเละพูดดี ทางร้าน (โดยปกติ) ก็จะพูดดีกับเราด้วย มันจะง่ายเวลาเราขอลองกีต้าร์หลายๆตัว เเละนานๆ เเต่ถ้าเกิดพนักงานร้านพูดไม่ดีก็เดินออกมาดีกว่าครับ ยังมีร้านอื่นที่ยินดีจะบริการลูกค้าอีกเยอะ!

ให้ลองเล่นกีต้าร์ตัวที่อยากได้ก่อนว่าถูกใจมั้ย ที่สำคัญที่สุดคือขนาดของคอ เวลาเล่น มือเเละนิ้วของเรารู้สึกสบายไหม มีปัญหาในการเล่นเเนวดนตรีของเรารึเปล่า

หากสัมผัสเเละเสียงเป็นที่ถูกใจเหมือนที่อยากได้จริงๆ หากทางร้านมีตัวใหม่ในสต็อคก็ขอให้ร้านเอาตัวใหม่ให้เเละลองเล่นอีกครั้ง ว่าสัมผัสเเละเสียงเหมือนกับตัวที่ลองรึเปล่า

4. เช็คว่ากีต้าร์ใช้งานได้ปกติรึเปล่า

คราวนี้ให้เช็คว่าโวลุ่ม-โทนใช้งานได้ดีรึเปล่า ซีเล็คเตอร์ทำงานปกติมั้ย ให้ลองเล่นโน้ตทุกช่องบนตัวกีต้าร์ ทุกช่องจะต้องไม่มีเสียงบอดหรือเเป๊กเวลาดีด หากมีก็ขอให้ที่ร้านเซ็ตอัพกีต้าร์ตัวนี้ให้ก่อน หากเซ็ตอัพเเล้วปัญหายังไม่หาย ก็ขอลองตัวใหม่


ถ้าทางร้านไม่สามารถเซ็ตอัพให้ได้ เเนะนำให้อย่าซื้อครับ เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าปัญหามันใหญ่ขนาดไหนเเละต้องเสียงเงินซ่อมอีกเท่าไหร่ ให้ไปที่ร้านอื่นที่มีกีต้าร์รุ่นที่อยากได้ดีกว่า

เท่านี้คุณก็จะได้กีต้าร์หรือเครื่องดนตรีที่ถูกใจเราจริงๆเเล้ว เราหวังว่าจะได้กีต้าร์ที่ถูกใจกันนะครับ

เเต่หากคุณซื้อกีต้าร์มาเเล้วเเต่พอเล่นๆไปเกิดไม่ชอบมันขึ้นมาซะอย่างงั้น ก็ของให้รู้ว่าคุณก็ยังโมดิฟายกีต้าร์ให้มีเสียงหรือลักษณะที่ถูกใจได้นะครับ^^

บอล

Guitar Rich